ถุงพลาสติกมีกี่ชนิด? แต่ละแบบมีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งถุงพลาสติกแยกเป็นชนิดได้ทั้งหมด 4 ชนิดที่พบเห็นในชีวิตประจำวันได้บ่อย ๆ ดังต่อไปนี้

ถุงพลาสติกมีกี่ชนิด? แต่ละแบบมีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร

ถุงพลาสติก เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เราทุกคนรู้จักและนิยมใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย ด้วยข้อดีที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นทั้งในครัวเรือน หรือสำหรับธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่ระดับ SME ถึงธุรกิจใหญ่

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ถุงพลาสติก มีชนิดแตกต่างออกไป ในบทความนี้ Tong Packaging จะอธิบายไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติกมีกี่ชนิด มีคุณสมบัติ ความแตกต่างอย่างไร และถุงพลาสติกแต่ละชนิดนั้น เหมาะกับการนำไปใช้งานแบบใด 

ถุงพลาสติก มีกี่ชนิด ? 

สำหรับคำถามที่ว่า ถุงพลาสติกมีกี่ชนิด นั้นต้องบอกก่อนว่าตามหลักสากล ถุงพลาสติก ที่เราเห็นนั้นแม้หน้าตาภายนอกอาจจะดูเหมือนกัน แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต ผิวสัมผัส กระบวนการในการผลิต จะมีความแตกต่างกันอยู่ ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถแบ่งถุงพลาสติกแยกเป็นชนิดได้ทั้งหมด 4 ชนิดที่พบเห็นในชีวิตประจำวันได้บ่อย ๆ ดังต่อไปนี้

1. ถุงพลาสติก OPP (Oriented Polypropylene)

ถุง OPP หรือเรียกอีกชื่อว่า ถุงแก้ว เป็นถุงพลาสติกที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี ทนความเย็นได้เล็กน้อย กันความชื้นและอากาศเข้าได้ดี จึงถูกนำมาใช้งานอย่างอเนกประสงค์ แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของถุงพลาสติก OPP คือ ผิวจะมีความกรอบ ใส แวววาว สามารถมองเห็นสินค้าที่อยู่ภายในได้ชัดเจน

(จนได้ชื่อเล่นว่าถุงแก้ว เพราะสีใสเหมือนแก้ว) ดังนั้นจึงเหมาะกับการบรรจุสิ่งของที่ต้องการโชว์ให้เห็นตัวสินค้า เช่น

  • ร้านขายเบเกอรี่ ขนมอบ เช่น คุกกี้ บราวนี่ ฯลฯ
  • ของกิ๊ฟช็อป เช่น กิ๊ฟติดผม ต่างหู เครื่องประดับ ลูกปัด ฯลฯ
  • เสื้อผ้า
  • สินค้าขนาดเล็กอื่น ๆ เช่น ปิ๊กกีต้าร์ กระดุม สติ๊กเกอร์ ฯลฯ

2. ถุงพลาสติก PP (Polypropylene)

ถุง PP คือชนิดของถุงพลาสติกอเนกประสงค์ เรียกอีกชื่อว่า “ถุงร้อน” มีลักษณะใส, มันวาว ทนความร้อนได้ถึง 100 องศา ทนสารเคมี หยิบใช้งานได้สะดวก แต่ข้อสังเกตของ ถุงพลาสติก ชนิดนี้คือ ไม่สามารถทนความเย็น ไม่เหมาะกับการนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง เพราะจะกรอบ แตก ดังนั้นการใช้งานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ ถุงพลาสติก PP จะมีดังนี้

  • นำไปบรรจุกับข้าว, อาหารทอดที่มีความร้อนสูง
  • ใช้ในวงการแพทย์ ภายในห้องปฏิบัติการ
  • ทำเป็นภาชนะหุ้มซองบุหรี่ ปกแฟ้มเอกสาร
  • นำไปใช้ห่อของเล่นเด็ก หรือตุ๊กตาตามร้าน

3. ถุงพลาสติก PE (Polyethylene)

ถุงพลาสติก PE ย่อมาจาก Polyethylene เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่ผลิตจากปิโตรเลียม มีสมบัติเด่นคือ ทนทานต่อแรงกระแทก เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ทนต่อสารเคมี และน้ำมัน ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ถุงพลาสติก PE ยังสามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดย่อย ตามคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • HDPE (High-Density Polyethylene) หรือพลาสติกความหนาแน่นสูง มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มขุ่น มีความหนาแน่นสูง แข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน นิยมนำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกประเภทต่างๆ เช่น ถุงพลาสติกหูหิ้ว ถุงขยะ ถุงบรรจุอาหาร ถุงบรรจุสินค้า เป็นต้น หรือนำถุงพลาสติก HDPE มาสกรีนโลโก้ เพื่อเป็น ถุงพลาสติกพิมพ์โลโก้ หรือ ถุงพิมพ์โลโก้สำหรับร้านค้าได้หลายประเภทธุรกิจก็ได้เช่นเดียวกัน
  • LDPE (Low-Density Polyethylene) หรือพลาสติกความหนาแน่นต่ำ มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มใส มีความหนาแน่นต่ำ เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ทนต่อแรงกระแทกปานกลาง ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน นิยมนำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกประเภทต่าง ๆ เช่น ถุงพลาสติกเย็น ถุงพลาสติกหูหิ้ว ถุงบรรจุอาหาร เป็นต้น
  • LLDPE (Linear Low-Density Polyethylene) หรือพลาสติกความหนาแน่นต่ำเชิงเส้นตรง มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มใส มีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน นิยมนำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกประเภทต่าง ๆ เช่น ถุงพลาสติกหูหิ้ว ถุงใส่น้ำแข็งยูนิต ถุงบรรจุอาหาร ถุงบรรจุสินค้า เป็นต้น

นอกจากนี้ ถุงพลาสติก PE ยังสามารถนำไปใช้กับถุงพลาสติกชนิดอื่นๆ ได้อีก เช่น

ถุงพลาสติกลามิเนต คือ ถุงพลาสติกที่ผลิตจากการนำพลาสติก 2 ชนิดหรือมากกว่ามาประกบกัน โดยถุงพลาสติก PE นิยมนำมาใช้ประกบกับพลาสติกชนิดอื่นๆ เช่น พลาสติก OPP พลาสติก PET เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของถุงพลาสติก เช่น เพิ่มความแข็งแรง ทนทาน กันน้ำ กันน้ำมัน เป็นต้น

ถุงพลาสติก PE เป็นถุงพลาสติกที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ จึงทำให้สามารถนำไปใช้กับถุงพลาสติกชนิดต่างๆ ได้หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป

4. ถุงพลาสติก PA (Polyamide)

ถุง PA หรือเรียกอีกชื่อว่า ไนลอน เป็นชนิดของถุงพลาสติกที่มีลักษณะใส สีขาว ถ้ามีความหนาแน่นสูงจะขุ่น ทึบแสงขึ้น มีจุดเด่นคือสามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 120 องศาเซลเซียส แข็งแรง ทนทาน ทนแรงกดทับและกันการฉีกขาด บิดงอ ไม่เสียรูปทรง อีกทั้งยังกันของเหลว, ไขมัน, ออกซิเจนซึมผ่านได้ดี ดังนั้น ถุงพลาสติก PA ส่วนใหญ่แล้วจึงนิยมนำไปทำเป็น ถุงซีลสุญญากาศ เพื่อใช้สำหรับถนอมอาหารเป็นหลัก

การใช้งานของ ถุงพลาสติกใส PA  (Polyamide)

  • ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ใช้สำหรับการซีลสุญญากาศให้กับอาหารบางประเภท เช่น เนื้อสัตว์ ซอส เครื่องปรุง เพื่อการเก็บรักษาที่นานขึ้น
  • ใช้ในครัวเรือนทั่วไป สำหรับการสุญญากาศอาหารเพื่อการประกอบอาหารแบบ Sous Vide

เลือก ถุงพลาสติก อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน

เมื่อคุณได้ทราบถึงชนิดและคุณสมบัติเด่นของเนื้อพลาสติก ไปแล้ว เราจะมาแนะนำการเลือกใช้ถุงพลาสติกที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดให้กับคุณ โดยการเลือกใช้ ถุงพลาสติก หลัก ๆ มีดังนี้

ใช้งานอเนกประสงค์หรือต้องการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า สำหรับร้านค้าทุกประเภท

สำหรับร้านค้า ร้านขายของต่าง ๆ ที่ต้องการหาถุงพลาสติกใช้งานเป็นบรรจุภัณฑ์ ใช้งานอเนกประสงค์หรือแม้แต่การเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ร้านค้าของคุณเป็นที่น่าจดจำ ถุงพลาสติก ที่ควรนำมาใช้นั่นคือชนิด HDPE ซึ่งเป็นถุงที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ใส่ของ ใส่สินค้า และยังสามารถพิมพ์ลายได้ตามต้องการอีกด้วย จึงเป็นถุงพลาสติกที่ Tong Packaging แนะนำมากที่สุด 

*ข้อควรระวังของถุงพลาสติก HDPE ที่พิมพ์ลายลงไปแล้วนั่นคือ คุณไม่ควรนำถุงบรรจุอาหารโดยตรง เพราะอาจเกิดสารปนเปื้อนจากหมึกลวดลายที่พิมพ์เข้าสู่อาหารได้

การเก็บรักษาของสด อาหารที่มีความเย็น

ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบสด เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ หรืออาหารที่มีความเย็น เช่น ไอศกรีม, น้ำแข็ง คุณควรเลือก ถุงพลาสติก ที่สามารถเก็บความเย็นได้ ดังนั้น ถุงพลาสติก ที่เหมาะสมคือชนิด LDPE และ LLDPE ที่ทนความเย็นได้สูง เมื่อเจอความเย็นต่ำมากๆสามารถคงสภาพเดิมได้ ทำให้ไม่เกิดการรั่วซึม ส่งผลให้วัตถุดิบที่อยู่ภายในสดอยู่ได้นาน สามารถนำเข้าช่องแช่แข็งได้โดยที่ไม่เปราะ กรอบ เสียหาย

การบรรจุอาหารที่มีความร้อนสูง

หากคุณต้องการบรรจุอาหารที่มีความร้อนสูง เช่น แกง ก๋วยเตี๋ยว หรือข้าวที่หุงสุกใหม่ ๆ การเลือก ถุงพลาสติก ที่ถูกต้องควรมีคุณสมบัติทนทานความร้อนได้สูง หรือทนทานได้ชั่วคราวเพื่อไม่ให้ถุงละลายจนสารเคมีเข้าไปปะปนกับอาหาร ดังนั้น ถุงพลาสติก ที่เหมาะสมคือชนิด PP และ HDPE (ที่ไม่ร้อนมากเกินไป เช่น ก๋วยเตี๋ยวแห้ง, กับข้าวทั่วไป)

การบรรจุกิ๊ฟช็อปและเบเกอรี

หากคุณต้องการอยากดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อกิ๊ฟช็อปและเบเกอรีของคุณให้ได้เยอะ ๆ ลูกค้าควรเลือกถุงที่ทำให้มองเห็นผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจน และเนื้อถุงที่มีความใสทำให้มองเห็นสินค้าด้านในได้ง่าย นั้น คือถุงพลาสติกชนิด OPP หรือถุงแก้วที่เรารู้จักกันดี เพราะเนื้อถุงมีความมันวาว สวยงาม ถ้าจะพิมพ์แบรนด์บนตัวถุง ก็ทำให้เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ดีทีเดียว

การเก็บถนอมอาหารในช่องแช่แข็ง

การเก็บถนอมอาหารในช่องแช่แข็งสามารถช่วยให้วัตถุดิบและอาหารมีความสดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งวัตถุดิบที่คุณจัดเก็บควรมีการห่อด้วย ถุงพลาสติก หุ้มอย่างน้อยหนึ่งชั้นเพื่อความสะอาด ซึ่ง ถุงพลาสติก ที่เหมาะสมในการแช่แข็งมากที่สุดคือชนิด LLDPE ซึ่งเป็นถุงที่นิยมนำมาใช้ในช่องฟรีซ แช่แข็งมากที่สุด

สรุปทั้งหมด

หวังว่าในบทความนี้ทุกคนคงได้ทราบกันแล้วว่า เนื้อพลาสติกมีกี่ชนิด และการนำไปใช้งานของถุงพลาสติกชนิดต่าง ๆ เหมาะกับการนำไปใช้งานในวัตถุประสงค์ใดมากที่สุด อย่างไรก็ตามการเลือกถุงพลาสติกให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณสมบัติของถุงพลาสติก ลักษณะการใช้งาน และงบประมาณ เป็นต้น

ให้ Tong Packaging ช่วยเลือก ถุงพลาสติก ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

Tong Packaging โรงงานผลิตถุงพลาสติก จัดจำหน่าย ถุงพลาสติกคุณภาพเกรด A ระดับ Food Grade ไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติกหูหิ้ว ถุงพลาสติกพิมพ์โลโก้ ถุงกิ๊ฟช็อป ถุงแก้ว OPP ถุงร้อน และอื่น ๆ อีกมากกว่า 50 รายการที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ พร้อมบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา ออกแบบโลโก้ให้ฟรี 

ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการ ถุงพลาสติก ลวดลายแบบเฉพาะแล้วละก็ Tong Packaging มีบริการออกแบบ Custom ถุงพลาสติก ใหม่ให้ฟรี! การันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมมาตรฐานการผลิต ISO ที่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างยอมรับในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

สอบถาม / สั่งผลิต ถุงพลาสติกที่ออกแบบและผลิตเพื่อแบรนด์ของคุณโดยเฉพาะ ที่ Tong Packaging ได้เลยทันที สนใจสั่งผลิต คลิกที่รูปได้เลย


หรือติดต่อเราตามช่องทางด้านล่างนี้: 

Tel.: 081-807-8945

Facebook Inbox 

LINE OA

Shopee